เศษอะลูมิเนียมจากกระบวนการตัดแต่งผิวผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

กรมโรงงานอุตสาหกรรม

• 12 01 03
• 12 01 04
• 12 01 14
• 12 01 18
• 17 04 02

วัตถุดิบทดแทน (Alternative raw material)

• เศษอะลูมิเนียม (Aluminium) : 100%

• ความหนาแน่น (Density) : 2.70 g•cm^-3
• จุดหลอมเหลว (Melting point) : 660.32 °C
• จุดเดือด (Boiling point) : 2519 °C
• ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ (Latent heat of vaporization) : 294.0 kJ•mol^-1
• ความจุความร้อนต่อโมลของสาร (Molar heat capacity) : 24.200 J mol^-1•K^-1
• ความทนต่อแรงดึง (Tensile strength) : 53 Mpsi
• ความแข็งแรง ณ จุดคราก (Yield strength) : 47 Mpsi
• เปอร์เซ็นต์ความยืด (%Elongation) : 15 %
• ความแข็งแบบบริเนลล์ (Brinell hardness) : 95
• ความร้อนจำเพาะ (Specific heat) : 0.226 cal•g^-1
• สภาพนำไฟฟ้า (Electical conductivity) : 64.94%
• สภาพต้านทานไฟฟ้า (Electrical resistivity) : 2.6548 µΩ•cm³
• ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว (Latent heat of fusion) : 94.6 cal•g^-1
• ปริมาณความร้อนจากการเผาไหม้ (Heat of combustion) : 7389 cal•g^-1
• สัมประสิทธิ์ของอุณหภูมิ (Temperature coefficient) : 0.00429 ที่ 20 °C
• ค่าการดูดกลืนหรือปล่อยรังสี (Emissivity) : 0.030
• ค่าการสะท้อนของผิว (Reflectivity) : 90%

• ไม่ระบุคุณสมบัติเฉพาะ สามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ทันที

• กระบวนการคัดแยกสารปนเปื้อนที่ไม่ใช่เศษอะลูมิเนียม
• กระบวนการตัดย่อย (Shredding)
• กระบวนการลอกแลคเกอร์และสี (De-lacquering)
• กระบวนการหลอม
• กระบวนการผลิตเป็นแท่ง (Ingots)

• แท่งอะลูมิเนียม

• พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535
• ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548
• ประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดการ สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ของผู้ประกอบกิจการบำบัดและกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2550
• ระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรม ว่าด้วยเรื่องรายละเอียดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 105 และลำดับที่ 106 พ.ศ. 2545
• ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำยางรถที่ใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2546

[1]    http://www.chjmetal.com/Products/Aluminium_Scrap.html

[2]    Samuel L. Hoyt, 1954, Metals Properties, Mcgrew-hill book, New York, pp.341-369          

[3]    สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย